"CRAFT LAB: Make every technology commercialised". Organizations need clear business objectives to understand their goals and select appropriate strategies. These objectives must be measurable, numeric, and time-bound. "CRAFT LAB: Make every technology commercialised" องค์กรจำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อให้ทราบเป้าหมายการขยับขององค์กร และจึงเลือกกลยุทธ์เข้ามาเพื่อให้สามารถตอบเป้าหมายขององค์กร (ที่วัดได้ มีเป้าหมายเชิงตัวเลข และมีกรอบเวลามากำหนดชัดเจน)
Financial vs. Strategic Objectives วัตถุประสงค์ด้านการเงินและกลยุทธ์
Business objectives are generally divided into 'Financial Objectives' and 'Strategic Objectives'. A simple yet powerful tool used to develop strategic objectives is the "Balanced Scorecard (BSC)". วัตถุประสงค์ธุรกิจจะแบ่งออกเป็นด้าน 'วัตถุประสงค์ด้านการเงิน' และ 'วัตถุประสงค์ด้านกลยุทธ์' เครื่องมืออย่างง่ายที่นำมาใช้ในการพัฒนาวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ถูกเรียกว่า "Balance Scorecard (BSC)"
The BSC divides objectives into 4 key dimensions: BSC จะแบ่งเป็น 4 มิติ คือ:
1. Financial Perspective 1. ด้านการเงิน (Financial)
Examples: Increasing dividends for shareholders, return on investment (ROI), net profit growth, total revenue, and cost reduction (% of revenue). ตัวอย่าง: การเพิ่มเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น (บาทต่อหุ้น/ร้อยละต่อราคาหุ้น), ร้อยละของผลตอบแทนจากการลงทุน, อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ, รายได้รวม, การลดต้นทุน (ร้อยละต่อรายได้)
Key Question: "What do shareholders and stakeholders expect?" คำถามสำคัญ: "ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียต้องการอะไร?"
2. Customer Perspective 2. ด้านลูกค้า (Customer)
Examples: Market size accessible, customer confidence level, market share vs. competitors, comparative customer cost, success rate of new product launches, growth of partners in foreign markets. ตัวอย่าง: ขนาดของตลาดเป้าหมายที่สามารถเข้าถึงได้, ระดับความมั่นใจต่อสินค้าหรือบริการ, ร้อยละของตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง, ต้นทุนลูกค้าเชิงเปรียบเทียบ, อัตราความสำเร็จในการออกสินค้าใหม่ในตลาด
Key Question: "Who are our customers and what value do they want?" คำถามสำคัญ: "ใครเป็นลูกค้าและคุณค่าที่เขาต้องการได้จากสินค้าหรือบริการของบริษัทคืออะไร?"
3. Internal Process Perspective 3. ด้านกระบวนการภายใน (Internal Process)
Examples: Efficiency of incoming goods inspection, warehouse movement, waste reduction, employee turnover reduction, inventory accuracy, accident reduction, quality control cost reduction, decision-making speed, on-time delivery. ตัวอย่าง: ร้อยละของประสิทธิภาพของกระบวนการตรวจสอบสินค้าเข้า, การเคลื่อนย้ายสินค้าในโกดัง, การลดการสูญเสียในระบบ, การลดการหมุนเวียนของพนักงาน, ความเที่ยงตรงของสินค้าคงคลัง
Key Question: "How must we improve or adjust our processes to deliver the value customers want?" คำถามสำคัญ: "เราต้องพัฒนาหรือปรับกระบวนการอย่างไรเพื่อตอบสนองคุณค่าที่ลูกค้าต้องการ"
4. Learning & Growth Perspective 4. ด้านการเรียนรู้และเติบโต (Learning & Growth)
Examples: Investing in operational assets (IT systems, machinery), upskilling employees, acquiring IP, culture change, retaining key talent. ตัวอย่าง: การลงทุนเพิ่มในทรัพย์สินในการดำเนินการ (เช่น ระบบสารสนเทศ อุปกรณ์ เครื่องจักร), การเพิ่มทักษะพนักงาน, การซื้อหรือพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา, การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
Key Question: "What knowledge, ability, and resources do we need to make our processes work well?" คำถามสำคัญ: "เราต้องรู้ ต้องสามารถ และมีทรัพยากรอะไรบ้างถึงทำให้กระบวนการดำเนินการทำได้ดี?"
To validate these objectives, a Strategy Map can be used to visualize the cause-and-effect relationships between these four perspectives. การตรวจสอบความถูกต้องของการพัฒนาวัตถุประสงค์ธุรกิจโดยใช้เครื่องมือ Balance Scorecard นั้น อาจดำเนินการโดยการใช้เครื่องมือย่อยที่ชื่อว่า Strategy map
Credits: Compiled by Asst. Prof. Dr. Parameth Voraseyanont, Graduate School of Management and Innovation, KMUTT. Ref: CRAFT LAB. เรียบเรียงโดย ผศ. ดร. ปารเมศ วรเศยานนท์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อ้างอิง: CRAFT LAB
